สำหรับบาคาร่าออนไลน์จะมีรูปแบบการเล่นคือการจั่วไพ่เพิ่ม โดยผู้เล่นฝ่ายเจ้ามือและฝ่ายผู้เล่นจะมีกติกาที่แตกต่างกันดังนี้
# การจั่วไพ่สำหรับฝ่ายเจ้ามือ (Banker)
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 3 และแต้มฝั่งผู้เล่นเท่ากับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 0 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 4 และแต้มของฝั่งผู้เล่นเท่ากับ 2 3 4 5 6 7 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 5 และแต้มรวมของฝั่งผู้เล่นเท่ากับ 4 5 6 7 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 6 และแต้มรวมของฝั่งผู้เล่นเท่ากับ 6 7 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 7 ให้อยู่ ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 8 และ 9 เรียกว่าป๊อก
# การจั่วไพ่สำหรับฝ่ายผู้เล่น
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 1 2 3 4 0 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 6 7 ให้จั่วไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากแต้มรวมของไพ่ 2 ใบแรกเท่ากับ 8 และ 9 คือป๊อกไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
และนอกจากกติกาพื้นฐานของการเล่นเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ทั้ง 3 กติกานี้แล้วยังมีรูปแบบของการวางเดิมพันที่เราสามารถเรียนรู้ได้ง่ายๆ 3 รูปแบบเช่นกันคือ
- การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) คือการเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะชนะ
- การเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) คือการเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะชนะ
- การเดิมพันเสมอ (TIE) คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกัน
และนี่คือกติกาพื้นฐานของการเล่นบาคาร่าออนไลน์รวมถึงรูปแบบการเล่นที่สุดแสนจะเรียบง่าย ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบนั่นเองนอกจากนี้แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องของอัตราการจ่ายเงินและโอกาสชนะการเดิมพันบาคาร่า จะเป็นอย่างไรไปดูกันต่อเลย